7 กลไกการออกฤทธิ์ ที่ขมิ้นชันมีประโยชน์ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2


สารเคอร์คิวมินเป็นสารประกอบในกลุ่มโพลีฟีนอลที่พบในขมิ้นชัน ปัจจุบันได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการศึกษาวิจัยพบว่า มีประโยชน์ในการช่วยป้องกันและรักษาโรคเบาหวานประเภท 2 (T2DM) ซึ่งในการศึกษาวิจัยทางด้านการแพทย์พบถึงกลไกการออกฤทธิ์ของสารเคอร์คิวมินที่พบในขมิ้นชันหลากหลายกลไกในกลุ่มการเจ็บป่วยหลายๆโรคและในบทความนี้ จะนำเสนอ 7 กลไกการออกฤทธิ์ของสารเคอร์คิวมินที่พบในขมิ้นชัน ที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน ดังนี้

1. Improving Insulin Sensitivity : เพิ่มความไวต่ออินซูลิน

สารเคอร์คิวมินสามารถปรับปรุงความไวของอินซูลินในการนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ร่างกายได้ โดยการเพิ่มการแสดงออกของตัวรับอินซูลิน หรือ insulin receptor substrate-1 (IRS-1) และ ตัวขนส่งน้ำตาลในเลือด หรือ glucose transporter type 4 (GLUT4) ซึ่งทั้งสองอย่างดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการดูดซึมกลูโคสและการนำส่งน้ำตาลของอินซูลิน เข้าสู่เซลล์

นอกจากนี้ สารเคอร์คิวมินยังสามารถยับยั้งโปรตีนไทโรซีนฟอสฟาเตส 1B หรือ tyrosine phosphatase 1B (PTP1B) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ควบคุมการส่งสัญญาณควบคุมอินซูลินในทางลบ ซึ่งผลที่สารเคอร์คิวมินออกฤทธิ์ผ่านกลไกเหล่านี้ร่วมกันช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินและช่วยรักษาสภาวะสมดุลของกลูโคสในเลือดและร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สรุปเข้าใจง่ายๆ คือ สารเคอร์คิวมินในขมิ้นชัน ทำให้การทำงานของอินซูลินไวขึ้น และนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้มากขึ้น

2. Modulating Inflammation : ควบคุมกระบวนการอักเสบเรื้อรัง

การอักเสบเรื้อรังเป็นสาเหตุสำคัญในการทำให้เกิดโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ซึ่งสารเคอร์คิวมินมีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ โดยการยับยั้งการผลิตสารไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น สาร tumor necrosis factor-alpha (TNF-α) และ สาร interleukin-6 (IL-6) และยับยั้งการกระตุ้นของ nuclear factor-kappa B ( NF-κB) และ แอคทิเวเตอร์ โปรตีน-1 หรือ activator protein-1 (AP-1) ซึ่งการยับยั้งผ่านกลไกเหล่านี้ของสารเคอร์คิวมินในขมิ้นชัน ทำให้หยุดกระบวนการอักเสบแบบเรื้อรังได้

3. Reducing Oxidative Stress : ลดการสร้างสารอนุมูลอิสระ

สารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในปฏิกิริยา Oxidative Stress ซึ่งเกิดจากความไม่สมดุลระหว่างการผลิต Reactive Oxygen Species (ROS) หรือ สารอนุมูลอิสระ และการป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนทำให้เกิดโรคเบาหวานได้ ซึ่งสารเคอร์คิวมินมีสรรพคุณเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มการแสดงออกของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระ เช่น เอนไซม์ซุปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (SOD), เอนไซม์คาตาเลส (CAT) และ เอนไซม์กลูตาไธโอนเปอร์ออกซิเดส (GPx) ซึ่งกลไกเหล่านี้จะช่วยลดสารอนุมูลอิสระและชะลอความเสียหายของเซลล์ในร่างกายจากโรคเบาหวานได้

4. Ameliorating Diabetic Complications : ลดการเกิดอาการแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบของสารเคอร์คิวมินสามารถช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดของภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้ เช่น โรคไต จอประสาทตาอักเสบ โรคระบบประสาท และโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น ตัวอย่างเช่น สารเคอร์คิวมินสามารถป้องกันโรคไตจากเบาหวานได้โดยการยับยั้งการเกิดพังผืดในไต และการอักเสบ และสามารถป้องกันภาวะเบาหวานขึ้นตาได้ โดยลดการแสดงออกของ vascular endothelial growth factor (VEGF) และยับยั้งการสร้างหลอดเลือดใหม่ที่จอประสาทตา นั่นเอง

สรุป คือ สารเคอร์คิวมินในขมิ้นชัน จะช่วยลดโรคแทรกซ้อนต่างๆ จากโรคเบาหวานได้

5. Modulating Gut Microbiota : ปรับสมดุลการทำงานของจุลินทรีย์ในลำไส้

จุลินทรีย์ในลำไส้หรือโพรไบโอติกมีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดโรคเบาหวานและความรุนแรงของโรคเบาหวาน ซึ่งจากการศึกษาวิจัยพบว่า สารเคอร์คิวมินสามารถปรับจุลินทรีย์ในลำไส้ โดยการเพิ่มปริมาณแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เช่น บิฟิโดแบคทีเรียม และ แลคโตบาซิลลัส ในขณะเดียวกันก็ลดจำนวนแบคทีเรียที่เป็นอันตราย เช่น Escherichia coli และ Enterobacter เป็นต้น ซึ่งกลไกเหล่านี้สามารถทำให้การทำงานของกระบวนการเผาผลาญพลังงานหรือดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น จึงส่งผลให้ควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีขึ้นในที่สุด

6. Regulating Lipid Metabolism : ควบคุมกระบวนการเผาผลาญไขมัน

ภาวะไขมันในเลือดที่ผิดปกติเป็นลักษณะทั่วไปที่มักพบร่วมกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และมีส่วนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ขึ้นมาได้ ซึ่งสารเคอร์คิวมินในขมิ้นชันสามารถช่วยควบคุมการเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น โดยการลดระดับของไขมันในเลือดชนิดต่างๆ เช่น โคเลสเตอรอล (TC), โคเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL-C) และไตรกลีเซอไรด์ (TG) เป็นต้น

ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มระดับโคเลสเตอรอล ชนิดไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL-C) ซึ่งเป็นชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากนี้ สารเคอร์คิวมินยังสามารถยับยั้งการแสดงออกของเอนไซม์ 3-ไฮดรอกซี-3-เมทิลกลูทาริล-โคเอ็นไซม์ เอ รีดักเตส (HMG-CoA รีดักเตส) หรือ 3-hydroxy-3-methylglutaryl-coenzyme A reductase (HMG-CoA reductase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สำคัญที่ใช้ในการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล จึงสามารถช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้ นั่นเอง

สรุปก็คือ สารเคอร์คิวมินในขมิ้นชัน สามารถช่วยลดการสร้างไขมันในเลือด และเพิ่มการเผลาผลาญไขมันในเลือดได้ นั่นเอง

7. Enhancing Pancreatic β-Cell Function : เพิ่มการทำงานของเซลล์ตับอ่อน

เบต้าเซลล์ของตับอ่อนมีหน้าที่ผลิตอินซูลินให้กับร่างกาย และการทำงานผิดปกติของเซลล์เหล่านี้ นำไปสู่การเกิดโรคเบาหวานได้ เพราะร่างกายจะไม่มีอินซูลินที่เพียงพอหรือมีประสิทธิภาพนำไปใช้ในการนำน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์ ซึ่งสารเคอร์คิวมินสามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์เหล่านี้ได้ โดยช่วยเพิ่มการหลั่งอินซูลิน และรักษาจำนวนเซลล์ของตับอ่อนให้แข็งแรง จึงนำไปสู่การสร้างอินซูลินได้อย่างเพียงพอและมีประสิทธิภาพในการนำไปใช้ ในที่สุด

ดังนั้น สารเคอร์คิวมิน จึงเป็นหนึ่งในทางเลือกเสริมในการจัดการโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ด้วยกลไกการออกฤทธิ์ที่หลากหลายข้างต้น

แต่ทั้งนี้ การพิจารณาใช้ ควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง หรือ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการใช้สารเคอร์คิวมิน เพื่อการดูแลสุขภาพด้วย

สั่งซื้อหนังสือ 82 กระบวนท่า กัญชา กัญชง ฆ่ามะเร็ง และรับสิทธิ์เรียนออนไลน์ ฟรี ได้ที่ช่องทางด้านล่างครับ

สนใจผลิตภัณฑ์ หรือ สินค้า สามารถติดต่อสอบถาม ผ่านช่องทางด้านล่างได้เลยครับ